หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

การตัดหู-ตัดหางสุนัข



สุนัขถูกเพาะพันธุ์และถูกคัดเลือกลักษณะเฉพาะบางประการเพื่อให้เหมาะสมกับงานที่ได้รับมอบหมาย ช่วยมนุษย์ในงานด้านต่่างๆ เช่น ล่าสัตว์ ปกป้องทรัพย์สิน ต้อนสัตว์ หรือ เพื่อความบันเทิง เป็นต้น

ยกตัวอย่าง

สุนัขที่มีหูยาว ขาสั้น เหมาะสำหรับการดมกลิ่น สะกดรอยเหยื่อ หูที่ปิดเพื่อประโยชน์ในการรับเสียงน้องลง เมื่อไม่สนใจต่อเสียงกระตุ้นที่เป็นตัวทำให้เสียสมาธิ จะได้มีสมาธิกับการดมอย่างเดียว ขาที่สั้นก็เพื่อให้จมูกอยู่ใกล้พื้นมากที่สุด

สุนัขที่มีจมูกสั้นหน้าหัก เพื่อจุดประสงค์ในการกัด เช่น Bulldog กระโดดกัดจมูกวัวได้ง่ายและสะดวก กัดแล้วไม่ปล่อย แต่ Bulldog ในอดีตจะมีช่วงขาที่ยาวกว่าปัจจุบันที่เราเห็นกัน

สุนัขที่ต้องไล่ล่าเหยื่อไปถึงโพรงใต้ดิน มักจะถูกเพาะพันธุ์ให้มีความสามารถในการขุด ขาแข็งแรง ใจกล้า ก้าวร้าว หูพับเพื่อป้องกันดินเข้าหู และป้องกันเหยื่อที่อยู่ในโพรงกัดหูได้เมื่อมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น และพวกนี้มักจะเห่าเก่ง เห่าเสียงดัง เสียงที่ดังแหลม จะทะลุผ่านดินขึ้นมาได้ เพื่อเจ้านายที่อยู่บนดินรู้ตำแหน่งของเขา และหางที่ตัดสั้นเท่ากำมือ ก็เพื่อให้คนดึงหางเขาเพื่อพาเขาขึ้นมาจากรูใต้ดินได้ และ หางที่สั้นก็ไม่ขัดขวางการเคลื่อนไหวของเขาเมื่ออยู่ในโพรงที่คับแคบ

สุนัขสายกัด ที่ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมาให้มีกรามที่แข็งแรง กัดแล้วไม่หลุด ทนความเจ็บปวดได้สูง และ สู้ไม่ถอย ความสามารถเฉพาะตัวเหล่านี้ก็เพื่อจุดประสงค์ในการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์กีฬา หรือ เพื่อปกป้องอารักขา แต่เน้นการต่อสู้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น หมากัดหมา หมากัดหมี หมากัดสิงโต หรือ หมาสู้กับคน

สุนัขสายอารักขาและเพื่อเกมส์การต่อสู้ มักจะมีการตกแต่งเสริมสวยร่างกายให้เหมาะสมกับการสู้่ในสนามรบ เพื่อให้เป็นแกรนดิเอเตอร์ที่น่าเกรงขาม

เช่น ตัดหู ดามหูให้ตั้ง ตัดหาง

ตัดหูเพื่อไม่ให้เป็นเป้าโจมตีจากสุนัขคู่ต่อสู้ได้ง่าย หูที่ยาวย่อมถูกกัดหูได้ง่ายกว่าหูที่สั้นติดหัว หางที่กุดก็ป้องกันการถูกกัดหาง ป้องกันการบาดเจ็บ เพราะการบาดเจ็บที่หูและหาง จะทำให้สุนัขเจ็บปวดมาก

และการตัดหู หูตั้ง หางกุด เพื่อจุดประสงค์อีกอย่างคือ เพื่อหลอกล่อปกปิดการแสดงภาษากายของสุนัข สุนัขที่หูตั้ง หางตั้ง มักจะมีภาวะการวางอำนาจเหนือ ดูน่าเกรงขาม ดูดุ ดูเอาเรื่อง แต่สุนัขที่หูตก หางตก มักเป็นภาษากายที่ดูจำนนกว่า และ ดูอ่อนโยนกว่า หางที่แกว่ง หูลู่ อาจทำให้สุนัขดูเป็นมิตรมากกว่าดูน่ากลัวน่าเกรงขาม

การที่ทำให้สุนัขหูตั้งตลอดเวลา และ หางกุดก็เพื่อไม่ต้องมีหางไว้สำหรับบ่งบอกอารมณ์ที่แ่ท้จริงของสุนัข เมื่่อสุนัขลงสนามแข่ง ก็จะสามารถข่มขวัญสุนัขคู่ต่อสู้ได้ หรือ ให้สุนัขอีกตัวมองเห็นว่าตนไม่มีท่าทางที่ยอมจำนนให้

หรือสามารถข่มขวัญโจรได้ในสุนัขอารักขาที่ทำหน้าที่ปกป้ัองทรัพย์สินของเจ้านาย เมื่่อโจรเห็นหูสุนัขที่ตั้ง ดูตื่นตัว ดูพร้อมทำงานตลอดเวลา ก็ทำให้โจรหวาดกลัวได้ และการที่ไม่เห็นหางที่กวัดแกว่ง ก็ทำให้โจรคาดเดาว่า หมาตัวนี้ไม่เป็นมิตรอย่างแน่นอน แม้จริงๆแล้วสุนัขตัวที่จ้องทะมึนในมุมมืดอาจเป็นสุนัขที่ตื่นเต้นและอาจกำลังแกว่งหางเพื่ออยากเล่นกับคนแปลกหน้าผู้มาเยือนก็ได้ แต่ในความมืดและระยะห่างในการมองเห็น อาจมองไม่เห็นหางกุดๆที่กำลังสั่นดุ๊กดิ๊ก เห็นแต่เงาดำทะมึนหูตั้งน่าเกรงกลัว

หรือถ้ามีการต่อสู้กันเกิดขึ้นระหว่างคนกับสุนัข โจรจะได้ไม่สามารถจับหู จับหางได้ถนัด เมื่อโจรจับสุนัขไม่ถนัด สุนัขก็สามารถต่อสู้และล้มโจรได้ง่ายขึ้น

แต่ในปัจจุบัน สุนัขไม่ต้องทำงานแบบในอดีตอีกต่อไป แต่ยังมีผู้เพาะพันธุ์ส่วนใหญ่ยังคงอยากที่่จะคงลักษณะสายพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์นั้นๆไว้ ลักษณะท่าทางสรีระของสุนัขที่ส่งผ่านมาทางพันธุกรรมอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เปลี่ยนยาก เช่น หน้าหัก หูยาว ขาสั้น ขนหางเป็นพวง เป็นต้น ก็เป็นสิ่งที่ควรปล่อยให้มีอยู่ต่อไป เพราะเป็นจุดเด่นที่ทำให้รู้ว่าสุนัขตัวนี้เป็นสายพันธุ์อะไร

แต่สิ่งที่ไม่จำเป็นและน่าจะหลีกเลี่ยงได้ ก็คือการเสริมสวยภายนอก เช่น การตัดหู ตัดหาง
เนื่องจากสุนัขไม่ต้องทำงานเหมือนกับสุนัขในอดีต ไม่ต้องสู้กับวัว ไม่ต้องสู้กับคน ไม่ต้องสู้กับหมี หรือ ต้องการจุดประสงค์ในการอารักขา ต่อสู้กับโจร ก็ดูแล้วไม่น่าจะเป็นผลเท่าไร เพราะโจรคงไม่โง่กระโดดลงมาสู้กับหมาหรือเสี่ยงให้ตัวเองถูกกัด อาวุธสมัยนี้พัฒนาไปไกล มีด ปืน ยาเบื่อ เป็นตัวเลือกที่ดูน่าเป็นผลมากกว่า และ หมาก็ไม่มีทางชนะอาวุธเหล่านี้ได้ ผลสุดท้าย หมาตายฟรี แถมของก็หายด้วย

ผู้เพาะพันธุ์ที่ไม่ทันสมัย มักจะอ้างว่า ตัดหู ตัดหาง เพื่อคงลักษณะสายพันธุ์ที่ถูกต้องไว้ ถือเป็นความรับผิดชอบของตน หน้าที่ของตนที่ต้องรักษาภาพลักษณ์

สุนัข Rottweiler ที่นิยมตัดหางให้กุด แต่ถ้า Rottweiler มีหางที่ยาวไม่กุดเหมือนอดีต ยังไงเขาก็เป็น Rottweiler อยู่วันยังค่ำ

หรือ บางคนอ้างว่า ตัดหูเพื่อสุขภาพของสุนัข ดูแลทำความสะอาดหูได้ง่าย อันนี้ก็ดูน่าจะมีเหตุผล แต่อย่าลืมว่า สุนัขหลากหลายสายพันธุ์ก็มีหูที่ยาวและตก เหมือนกัน หูสะอาดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการดูรักษาความสะอาด และ ความเอาใจใส่ของเจ้าของ ถ้าการตัดหูทำให้การทำความสะอาดหูสุนัขมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อนั้นก็จะมีงานวิจัยมาสนับสนุนว่า สุนัขทุกตัวควรตัดหูเพื่อการดูแลที่ง่ายขึ้น เมื่อนั้นเราอาจเห็นบีเกิ้ลหูกุด โกลเด้นหูกุด กันทุกบ้าน

การตัดหู ตัดหาง ไม่ว่าจะเพื่อการรักษาเอกลักษณ์ของสายพันธุ์ หรือ การดูแลความสะอาด จริงๆแล้วจำเป็นหรือไม่ หรือ อาจเป็นเพียงข้ออ้างที่ทำให้ตัวเองดูดี ดูมีเหตุผล ดูไม่ผิดหลักจริยธรรม แต่จริงๆ แล้ว ก็เป็นเพียงแค่ความสวยงาม สบายตา สบายใจ ดูเท่ห์ ดูโก้ สำหรับผู้เลี้ยงสุนัข เหมือนเป็นความภูมิใจส่วนตัว แค่นั้น

การประกวดสุนัขสวยงามสมัยนี้ ในยุโรปเขาก็ไม่ต้องตัดหูตัดหางกันแล้ว เพราะจิตใจมนุษย์พัฒนาขึ้น และมีมนุษยธรรมขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องทรมานหมาเพื่อความสวยงาม

เหมือนกับต่างประเทศที่เจริญแล้ว การให้สุนัขต่อสู้กัน สุนัขกัดกันเพื่อเกมส์กีฬา ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย คนทำก็ต้องติดคุก เพราะหลักมนุษยธรรม และ ความรับผิดชอบกับสัตว์ร่วมโลกอย่างคนที่มีจิตใจเจริญแล้ว

แต่ในคน บางกลุ่มที่ยังคงชื่นชอบกับเกมส์กีฬาโหดเหี้ยมสุนัขกัดกัน เลี้ยงสุนัขสายกัดและเอาไปกัดกันเพื่อความสนุกสนาน และ ก็ภูมิใจในตัวเองที่เลี้ยงสุนัขนักสู้เหล่านี้ ภูมิใจในความโหดเหี้ยมของตน ใครเห็นต้องกลัวจนหัวหดขี้หดตดหาย ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเลงหัวไม้มีหมาแกรนดิเอเตอร์ยืนเคียงข้าง พวกนี้จิตใจยังไม่พัฒนา จิตใจต่ำ
บางคนคิดว่าดูเท่ห์ ดูโก้ ที่เลี้ยงสายพันธุ์ที่น่าเกรงขาม แต่เวลาพาหมาเดิน โดนหมาดึงตัวแทบปลิว แทบถูกลากไปกับพื้น เหมือนผ้าผืนหนึ่งที่ปลิวเวลาต้องลม อย่างนี้ดูเท่ห์ ดูแมน หรือ น่าขันกันแน่

การตัดหู ตัดหาง ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่่มากในปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับมุมมอง และ จริยธรรมในจิตใจของผู้เลี้ยง ผู้เพาะพันธุ์
มีงานวิจัยต่างประเทศกล่าวว่า สุนัขที่ตัดหูตัดหาง มีแนวโน้มจะเข้าสังคมกับสุนัขไม่เป็น มีปัญหาก้าวร้าวกับสุนัขตัวอื่น เนื่องจาก การตกแต่งเสริมสวยโดยมนุษย์ให้มีหูตั้ง และ ไม่มีหาง ทำให้ไปลิมิตการแสดงภาษากายอย่างถูกต้อง เวลาสุนัขเจอกันหรือพบปะกัน สุนัขที่หูตั้งตลอดเวลา ดูมีภาวะการวางอำนาจเหนือ ดูข่มสุนัขตัวอื่นอยู่ตลอดเวลา หางที่กุดก็ไม่สามารถแสดงภาษากายเพื่อสื่อสารกับสุนัขอีกตัวได้เต็มที่ ทำให้สุนัขตัวอื่นแปลความหมายของภาษากาย(ของสุนัขที่ถูกเสริมแต่ง)ผิดๆได้ และ ยังทำให้เกิดการท้าทาย และ ต่อสู้กันเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าสุนัขที่มีร่างกายปกติ หูปกติ หางปกติ เนื่องจากร่างกายที่ปกติ ก็สามารถแสดงภาษากายได้ตรงและปกติเช่นกัน

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Outlook ~ Server Error: 530, Error Number: 0x800CCC78

ในกรณีที่ส่งเมลล์ไม่ออกแล้วเจอ Error Message ประมาณว่า


"The message could not be sent because the server rejected the sender's e-mail address. The sender's e-mail addresswas '(E-Mail Removed)'. Subject 'test', Account: 'pop.1and1.com', Server: 'smtp.1and1.com', Protocol: SMTP, Server Response: '530 Authentication required', Port: 25, Secure(SSL): No, Server Error: 530, Error Number: 0x800CCC78"




สาเหตุ เนื่องมาจากตัว Outgoing Server (SMTP server) นั้นต้องมีการทำ Authentication เพื่อยืนยันตัวตนก่อนที่จะทำการส่ง แต่ค่าพารามิเตอร์ใน Outlook ของเราถูกเซ็ตไว้ไม่ถูกต้องเช่น ไม่ได้เลือกให้มีการ Authentication เป็นต้น
วิธีการแก้ไข เราสามารถเข้าไปเช็คค่าพารามิเตอร์ต่างๆในส่วนของ Outgoing Authentication ใน Outlook เวอร์ชันต่างๆได้ดังนี้ครับ



- Outlook Express (6.0)*
1. ไปที่เมนู Tools > Accounts
2. double click อีเมล์ที่มีปัญหา
3. เลือก tab : Servers
4. บริเวณ Outgoing Mail Server ติ๊ก "My server requires authentication"
5. กด Settings
6. เลือก Use same settings as my incoming mail server
7. กด OK
8. ทดสอบส่งอีเมล์

- Microsoft Outlook 2003*
1. ไปที่เมนู Tools > E-mail Accounts
2. เลือก View or change existing e-mail accounts
3. double click อีเมล์ที่มีปัญหา
4. ไปที่ More Settings
5. เลือก tab : Outgoing Server
6. ติ๊ก "My outgoing server (SMTP) requires authentication"
7. เลือก use same settings as my incoming mail server
8. กด OK
9. ทดสอบส่งอีเมล์ หรือ กดที่ Test Account Settings

- Microsoft Outlook 2007*
1. ไปที่เมนู Tools > Account Settings
2. เลือก tab : E-mail
3. double click อีเมล์ที่มีปัญหา
4. ไปที่ More Settings
5. เลือก tab : Outgoing Server
6. ติ๊ก "My outgoing server (SMTP) requires authentication"
7. เลือก use same settings as my incoming mail server
8. กด OK
9. ทดสอบส่งอีเมล์ หรือ กดที่ Test Account Settings

- Microsoft Outlook 2010*
1. ไปที่เมนู File > Info > Account Settings
2. เลือก tab : E-mail
3. double click อีเมล์ที่มีปัญหา
4. ไปที่ More Settings
5. เลือก tab : Outgoing Server
6. ติ๊ก "My outgoing server (SMTP) requires authentication"
7. เลือก use same settings as my incoming mail server
8. กด OK
9. ทดสอบส่งอีเมล์ หรือ กดที่ Test Account Settings

ขั้นตอนต่างๆในที่นี้เป็นกรณีที่ใช้ Username กับ Password เดียวกันกับที่ใช้ในการ Log in เข้า Incoming Mail Server นะครับ ซึ่ง ISP ในประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้วิธีแบบนี้ หากเป็นกรณีที่เป็นคนละตัวกันก็เข้าไปกรอก Username กับ Password ให้ตรงกับที่ Outgoing Mail Server ต้องการได้เลยครับ โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถสอบถามได้จาก Administrator

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Outlook Express ~ Error Number: 0x800C0133


ยังคงมีหลายๆท่านที่ยังคงใช้โปรแกรม Outlook Express ในการรับส่งอีเมลล์อยู่ โดยที่ไม่ทราบว่าในชุดโปรแกรม Microsoft Office ของท่านมีโปรแกรม Microsoft Outlook ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่ามาก โดยเฉพาะเรื่องข้อจำกัดของ Outlook Express อย่างหนึ่่งที่ทำให้ผู้ใช้เกิดปัญหาที่พบบ่อยนั่นก็คือการที่ Outlook express ไม่สามารถจัดการกับ Inbox ที่มีขนาดเกิน 2 Gigabyte ได้โดยทั้งนี้ไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนอีเมลล์ที่รับได้ โดยเกิด Error Message ว่า

"An unknown error has occurred. Account: 'pop.xxx.co.th', Server: 'pop.xxx.co.th'. Protocol: POP3, Port: 110, Secure (SSL): No, Error Number: 0x800C0133."


สาเหตุ เกิดจากการที่ขนาดของไฟล์อีเมล์ใน Inbox ใหญ่เกินขีดจำกัดของ Outlook Express โดยไฟล์ที่เต็มนั้นมีนามสกุลของไฟล์เป็น .dbx เช่น Inbox.dbx นั้นจะจำกัดอยู่ที่ 2,097,142 KB เมื่อไฟล์เต็มแล้วจะทำให้ไม่สามารถรับเมล์ใหม่ๆเข้ามาได้อีก

วิธีการแก้ไข ในเบื้องต้นนั้นมี 3 วิธี ดังนี้ครับ
1. บีบอัดไฟล์หรือโฟลเดอร์ให้มีขนาดเล็กลง ซึ่ง Outlook Express เค้าจะเรียกว่า Compact Folder โดยไปเลือกที่ File-> Folder -> Compact All Folders


หลังจากที่ทำการ Compact All Folders ขนาดของไฟล์ก็จะเล็กลง เราสามารถเช็คไฟล์ได้โดยดู Path ของไฟล์ที่ Tools-> Options... แล้วเลือกแทป Maintenance แล้วเลือกที่ Store Folder... เราก็จะเห็น Path ของไฟล์ที่ Outlook Express เก็บไว้ แล้วเข้าไปดูไฟล์ได้ตาม Path นั้น เช่นไฟล์ของเครื่องผมจะอยู่ที่ Path ด้านล่าง

C:\Documents and Settings\XXX\Local Settings\Application Data\Identities\{C49DBB85-48DC-42AF-8F45-2E48C0FEA9DA}\Microsoft\Outlook Express

เมื่อเราเข้าไปดูในโฟลเดอร์นั้นก็จะเห็นไฟล์ที่เป็น XXX.dbx ซึ่งจะเป็นไฟล์ที่เก็บอีเมลล์ไว้


หากทำการ Compact Folders แล้วอีเมลล์ใน Inbox หายไปทั้งหมดให้กลับเข้าไปดูในโฟลเดอร์เดิม แล้วจะเห็นว่ามีไฟล์ชื่อ Inbox.bak ซึ่งเป็นไฟล์ที่เกิดจากการ Compact Folder (สังเกตได้ว่าจะมีขนาดใหญ่) ให้ลบไฟล์ Inbox.dbx ที่ขนาดไฟล์น้อยๆออกแล้วให้เปลี่ยนชื่อ (Rename) ไฟล์ Inbox.bak ให้เป็น Inbox.dbx แล้วอีเมลล์ใน Inbox ของคุณก็จะกลับมาเหมือนเดิมครับ

2. ย้ายอีเมลล์ของเราไปใส่ไว้ในโฟลเดอร์อื่น เนื่องจากไฟล์ Inbox ของเราเต็มแล้ว เราจึงต้องสร้างโฟลเดอร์ใหม่เพื่อเก็บอีเมลล์ในโฟลเดอร์ Inbox ที่อาจจะเก่าแล้วเข้าไปไว้ในโฟลเดอร์นั้น เช่นผมจะสร้างโฟลเดอร์ที่ชื่อ 2011 เพื่อเก็บอีเมลล์ผมก็จะทำได้โดยการ
  2.1 คลิ๊กขวาที่ Local Folders-> New Folder...
  2.2 สร้างโฟลเดอร์ใหม่ขึ้นมาเช่น 2011 เพื่อไว้เก็บอีเมลล์เก่าๆของปี 2011
  2.3 ย้ายอีเมลล์เก่าๆของปี 2011 ไปไว้ในโฟลเดอร์ 2011
เท่านี้ขนาดไฟล์ของโฟลเดอร์ Inbox ก็จะเล็กลงครับ

3. วิธีนี้จะทำการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ Inbox ให้เป็นอันอื่นแล้วสร้างโฟลเดอร์ Inbox ใหม่ขึ้นมา มีขั้นตอนดังนี้
  3.1 เข้าไปในโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ของอย่างที่ข้อ 1 ทำไว้ครับแล้วเปลี่ยนชื่อไฟล์ (Rename) Inbox.dbx ให้เป็นชื่ออื่นครับ เช่น Backup.dbx
  3.2 ทีนี้ลองเปิด Outlook Express ขึ้นมาอีกครั้ง ในครั้งนี้ในโฟลเดอร์ Inbox จะไม่มีอีเมลล์ใดๆเลยครับ เพราะว่าเจ้า Outlook Express จะสร้างไฟล์ Inbox ขึ้นมาใหม่เป็นมาตรฐานอยู่แล้วในกรณีที่มองหาไฟล์ชื่อ Inbox.dbx ไม่เจอ
  3.2 สร้างโฟลเดอร์ย่อยไว้ในโฟลเดอร์ Local Folders เหมือนข้อ 2 แล้วตั้งชื่อเช่น BackupInbox
  3.3 เมื่อสร้างเสร็จให้ปิดโปรแกรม Outlook Express แล้วกลับไปยังโฟลเดอร์ที่เก็บอีเมลล์ไว้อีกครั้ง ทีนี้เราก็จะมี 3 ไฟล์ได้แก่

        - Inbox.dbx ที่ Outlook Express พึ่งสร้างใหม่ ขนาดไฟล์จะน้อยมาก
        - Backup.dbx อันนี้ก็คือ Inbox.dbx เก่าที่ไฟล์ใหญ่เกิน 2 GB (แนะนำให้ Copy เก็บไว้ด้วยครับ กันไว้ก่อน)
        - BackupInbox.dbx เป็นโฟลเดอร์ใหม่ที่เราสร้าง ขนาดไฟล์จะน้อยมาก

  3.4 ลบ BackupInbox.dbx ไปเลยครับ
  3.5 เปลี่ยนชื่อ Backup.dbx ให้เป็น BackupInbox.dbx
ทีนี้เมื่อเปิด Outlook Express ขึ้นมาเราก็จะเห็นโฟลเดอร์ Inbox และ BackupInbox แล้วครับ โดยที่่โฟลเดอร์ Inbox เดิมจะกลายเป็นโฟลเดอร์ BackupInbox และ Inbox ใหม่ก็จะโล่ง ทำให้เราสามารถรับส่งอีเมลล์ได้ตามปกติแล้วครับ

MS Outlook 2007 ~ Server Timeouts Tuning

Application: Microsoft Outlook 2007
สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาว่าระหว่างดึงอีเมลล์แล้วเกิด Time Out ขึ้น เราสามารถปรับแต่งระยะเวลาในโปรแกรม MS Outlook 2007 ได้ตามขั้นตอนดังนี้ครับ

1. เลือกที่ Tools->Account Settings…



2. เลือกที่อีเมลล์ของตัวเอง แล้วคลิ๊ก Change… (หรือ Double click เลยก็ได้ครับ)


3. เลือกตรง More Settings… ตรงมุมขวาล่าง



4.เลือกแทป Advanced แล้วปรับแต่งเวลาของ Server Timeouts ตามต้องการ